“แม้ว่าน้ำหนักของฉันจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่พบว่าผิวรอบ ๆ คางกลับมีการหย่อนคล้อย รูปหน้าของฉันไม่ชัดเจนเหมือนเดิมและดูยาน ๆ”
แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปเมื่ออายุเพิ่มขึ้น แต่ก็สามารถเกิดกับคนหนุ่มสาวในช่วงวัย 20 ได้เช่นกัน หลังจากได้อ่านความเห็นต่อไปนี้
“ฉันตกใจมากที่พบว่าเวลาหัวเราะแล้วมีรอยตีนกาหลังจากที่เพิ่งปิดมาสก์เสร็จ!” “ฉันรู้สึกไม่พอใจมากที่เห็นริ้วรอยของตัวเองในจอภาพระหว่างการประชุมออนไลน์...”
สาเหตุของริ้วรอยเหล่านี้เกิดขึ้นจากความยืดหยุ่นของผิวที่หย่อนคล้อย
แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปเมื่ออายุเพิ่มขึ้น แต่ก็สามารถเกิดกับคนหนุ่มสาวในช่วงวัย 20 ได้เช่นกัน หลังจากได้อ่านความเห็นต่อไปนี้
“ฉันตกใจมากที่พบว่าเวลาหัวเราะแล้วมีรอยตีนกาหลังจากที่เพิ่งปิดมาสก์เสร็จ!” “ฉันรู้สึกไม่พอใจมากที่เห็นริ้วรอยของตัวเองในจอภาพระหว่างการประชุมออนไลน์...”
สาเหตุของริ้วรอยเหล่านี้เกิดขึ้นจากความยืดหยุ่นของผิวที่หย่อนคล้อย
ผิวที่กระชับคือผิวที่เต่งตึงและมีความยืดหยุ่นที่ดี คุณจะทดสอบได้อย่างไรว่าผิวของคุณกระชับหรือไม่? ผิวที่ยืดหยุ่นก็จะเหมือนกับแรงต้านที่เกิดขึ้นเมื่อคุณใช้นิ้วเดาะบอล ผิวที่ยืดหยุ่นจะให้ตัวและต้านกลับทำให้คุณไม่มีปัญหารอยย่นบนใบหน้าเนื่องจากหมอน มีริ้วรอยน้อยขณะหัวเราะ และผิวสามารถคืนตัวได้โดยง่ายในสภาพเดิม คอลลาเจนและอีลาสตินคือโปรตีนที่สำคัญสองตัวที่ช่วยให้ผิวกระชับ ความหนาของชั้นหนังกำพร้าก็มีบทบาทต่อความยืดหยุ่นและกระชับของผิว
SKINPOWER Advanced Cream
ทรงพลังและเข้มข้น ชาร์จพลังผิวแบบจัดเต็มจากภายใน
ความยืดหยุ่นที่น้อยลงจะทำให้ผิวหย่อนคล้อยแม้สำหรับคนในวัยยี่สิบ!
โดยทั่วไปแล้ว ผิวจะเริ่มหย่อนคล้อยเมื่ออายุก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 40 หรือ 50 เนื่องจากการเสื่อมสภาพตามอายุ อย่างไรก็ตามผลการวิจัยไม่ได้ยืนยันคำกล่าวนี้ ผลการวิจัยนับทศวรรษของ SK-II เกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของผิวในเขตอะอิตะ ประเทศญี่ปุ่น พบว่า สัญญาณแรกของความแก่ไม่ได้เกิดจากรอยดำที่เพิ่มขึ้นหรือผิวที่ขาดความชุ่มชื้น แต่เกิดจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว ความยืดหยุ่นของผิวที่ลดลงนำไปสู่ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผิวที่หมองคล้ำและเกิดรูขุมขนที่มองเห็นไดชัดเจน ความหมองคล้ำและรูขุมขนที่กว้างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เนื่องจากนี่คือสัญญาณของความชรา ข้อสังเกตเช่น “ผิวดูเหมือนมีการหดตัวและขยายตัวในช่วงท้ายของวัน” หรือ “ฉันรู้สึกว่าผิวอ่อนแอในเวลากลางคืน” ล้วนเป็นผลจากความยืดหยุ่นของผิวที่ลดลง และสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้กับคนในช่วงวัย 20%
อายุมีผลต่อโครงสร้างของชั้นผิว
คอลลาเจนช่วยให้ผิวกระชับและปริมาณคอลลาเจนตามธรรมชาติที่เรามีจะมากที่สุดในช่วงวัย 20 เมื่อพ้นจากช่วงวัยนี้เซลล์สร้างเส้นใยของชั้นผิวจะมีการผลิตคอลลาเจนลดลง ในขณะเดียวกันกระบวนการแซ็กคาริฟิเคชัน (การแตกตัวของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นน้ำตาลธรรมดา) จะมีผลต่อคอลลาเจนและทำให้ผิวเสื่อมสภาพ และสูญเสียความกระชับหรือยืดหยุ่นในที่สุด อีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวขยายตัว หดตัวและกลับสู่สถานะเดิมจะลดลงไปตามการทำงานของเซลล์สร้างเส้นใยของชั้นผิวที่ลดลง ผลลัพธ์คือผิวที่แข็งและขาดความยืดหยุ่น เมื่อเวลาผ่านไป ผิวก็จะเสียความกระชับและเริ่มหย่อนคล้อย
Facial Treatment Essence
เอสเซนซ์ PITERATM เอกสิทธิ์เฉพาะจากเราเพื่อผิวที่กระจ่างใสราวกับคริสตัล
เมื่อชั้นหนังกำพร้าบางลง ผิวก็จะมีความเอิบอิ่มน้อยลง
คุณจะเริ่มดูแก่ลงอย่างชัดเจนเมื่อเหตุการณ์นี้เริ่มต้นกับชั้นผิวด้านนอกหรือชั้น stratum corneum ในขณะเดียวกัน เนื้อเยื่อชั้นลึกของผิวก็จะเริ่มเสื่อมสภาพไปด้วย ความไม่สมดุลของกระบวนการของผิวจะทำให้เสียความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแห้งกร้านและแข็งตึง สำหรับชั้นผิวระดับลึก เซลล์ผิวจะเริ่มมีการหดตัว ขนาดเซลล์ที่ลดลง ชั้นของผิวจะยิ่งบางลงเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดพื้นผิวด้านบนไม่เพียงแต่แข็งและหยาบ แต่จะเริ่มบางและไม่เด้งหนึบอีกต่อไป
รังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (UV) ที่แทรกซึมเข้าในชั้นผิวจะเข้าไปทำลายคอลลาเจน
รังสี UV มีบทบาทถึง 80% ที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ คลื่น UV-A ที่แทรกซึมในชั้นลึกของผิวจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน และมีผลสะสมอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของผิว นี่คือสิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวมักไม่ตระหนักหรือใส่ใจอย่างจริงจัง
ป้องกันผิวอย่าให้ขาดความชุ่มชื้น!
ส่วนประกอบของร่างกายมีน้ำมากกว่า 60% และ 15% กระจุกตัวอยู่ในชั้นผิวซึ่งเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ดังนั้นหากร่างกายของคุณขาดน้ำ ก็จะมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอในการดูแลผิวให้กระชับและชุ่มชื้นเพียงพอ หนึ่งในแนวทางการดูแลผิวที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างวัน เพื่อให้คุณได้รับน้ำเพียงพอจากภายใน ขอแนะนำให้ดื่มน้ำปริมาณน้อย ๆ เป็นประจำแทนการดื่มเป็นปริมาณมากต่อครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระชับ!
ชอบของหวานหรือเปล่า? เรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการเกิดแซ็กคาริฟิเคชัน
เนื่องจากคอลลาเจนและอีลาสตินล้วนเป็นโปรตีนทั้งสิ้น จึงอาจได้รับผลกระทบจากการเกิดแซ็กคาริฟิเคชันทำให้เกิดความผิดปกติขึ้น คุณอาจเคยได้ยินคนพูดว่า “ขออดข้าวแล้วกินของหวานดีกว่า!” แต่พฤติกรรมเช่นนี้จะเพิ่มความเสี่ยงจากการเกิดแซ็กคาริฟิเคชัน! การบริโภคของหวานและเครื่องดื่มหวาน ๆ ที่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเป็นจำนวนมากจะทำให้เกิดกระบวนการแซ็กคาริฟิเคชันขึ้น ผลที่เกิดขึ้นคือคอลลาเจนและอีลาตินจะแข็งตัวทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น
ผลจากการทดสอบในการทดลองในสภาพเทียมพบว่าการเกิดแซ็กคาริฟิเคชันจะมีผลไปกดการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ซึ่งหมายถึงอาหารที่มีน้ำตาลมากไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อคุณ แต่ยังมีผลเสียต่อผิวของคุณด้วย!
ผลจากการทดสอบในการทดลองในสภาพเทียมพบว่าการเกิดแซ็กคาริฟิเคชันจะมีผลไปกดการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ซึ่งหมายถึงอาหารที่มีน้ำตาลมากไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อคุณ แต่ยังมีผลเสียต่อผิวของคุณด้วย!
ข้อพิสูจน์ว่าผิวได้รับผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟน - คนหนุ่มสาวในวัย 20 สูญเสียความยืดหยุ่นของผิวอย่างรวดเร็ว!
เราได้พูดคุยเกี่ยวกับกรณีการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวในคนหนุ่มสาว และพบปัญหาหนึ่งที่เกิดกับคนรุ่นนี้อย่างแพร่หลายคือกล้ามเนื้อใบหน้าที่อ่อนแอ สาเหตุก็เนื่องมาจากการใช้อุปกรณ์ดิจิตอลอย่างหนัก เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตผ่านระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล โซเชียลมีเดีย ฯลฯ) ที่เข้ามามีบทบาทแทนการพบปะกันแบบตัวต่อตัว สิ่งนี้ทำให้โอกาสที่เราจะได้แสดงสีหน้าหรือฝึกกล้ามเนื้อใบหน้าในการพูดคุยและ/หรือแสดงความรู้สึกลดลง นี่เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้รอยพับที่จมูกลึกขึ้น (รอยพับของผิวสองส่วนจากแต่ละด้านของจมูกจนถึงมุมปาก เรียกอีกอย่างว่า “ตีนกา”) เนื่องจากพฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่ทำให้ผิวหน้าเกิดความหย่อนคล้อย การใช้เวลากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือสวมหน้ากากป้องกันเมื่อออกไปนอกบ้านเป็นเวลานาน รวมทั้งการได้รับแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์ซึ่งมีผลคล้ายกับรังสี UV เป็นเวลานานล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสียหายของชั้นผิว สำหรับคนหนุ่มสาว ผิวหน้าของพวกเขาอาจยังดูเรียบเนียนและมองเห็นโครงร่างได้ชัดเจน แต่จริง ๆ แล้วกลับไม่ได้กระชับเท่ากับคนตามปกติในวัยเดียวกัน การประชุมสายวิดีโอและการใช้สายวิดีโอออนไลน์ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญในปัจจุบันที่ทำให้บุคคลอื่นสามารถสังเกตเห็นสภาพผิวของคุณได้อย่างชัดเจน ปัญหาเรื่องความมั่นใจจากผิวจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญและแก้ไขอย่างจริงจัง
1. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณจากภายในสู่ภายนอก
เตือนตัวเองให้ดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประจำระหว่างวันแทนการดื่มคราวละมาก ๆ การดื่มน้ำเช่นนี้ แม้ว่าจะยังไม่รู้สึกกระหายจะทำให้ร่างกายของคุณมีความชุ่มชื้นเพียงพอ และสามารถรักษาความกระชับของผิวอยู่ได้ เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวชั้นนอก ควรหมั่นดูแลด้วยมอยสเจอไรเซอร์เป็นประจำ! การดูแลความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอจะช่วยให้ชั้นป้องกันของผิวแข็งแรง และทำให้ชั้นผิวมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง วิธีการเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนและอิ่มเอิบ แต่คุณยังกระชับและหยุ่นกลับเมื่อสัมผัสด้วย!
2. เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและปรับพฤติกรรมที่ช่วยเสริมความกระชับให้แก่ผิว
ขอแนะนำให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับกระชับผิว เนื่องจากจะช่วยเสริมความอิ่มเต็มและสภาพผิวโดยรวมของคุณให้ดีขึ้น นอกจากนี้ควรออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าเป็นประจำเพื่อให้ผิวกระชับและเต่งตึงอยู่เสมอ การแสดงสีหน้าแบบง่าย ๆ เช่น ขยับปาก ทำสีหน้าแบบต่าง ๆ หรือการแสดงออกแบบเกินจริง ล้วนมีผลในเชิงรักษาที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีบริเวณใบหน้าของคุณ การนวดเบา ๆ ก็เป็นประโยชน์เช่นกันโดยใช้นิ้วตบที่ผิวหน้าของคุณเบา ๆ เป็นประจำ จำไว้ว่าการเช็ดหรือถูหน้าแรง ๆ อาจทำให้ชั้นคอลลาเจนที่ผิวของคุณได้รับความเสียหาย
3. ปกป้องผิวของคุณจากรังสี UV!
การได้รับรังสี UV สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าในสภาพอากาศแบบไหน และไม่ว่าคุณจะอยู่ในร่มหรือภายนอกอาคาร ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำทุกวันตลอดทั้งปี ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF30 PA+++ (หรือสูงกว่า) จะเหมาะที่สุดในการให้การปกป้องเบื้องต้นเพื่อลดผลกระทบจากคลื่น UV-A ต่อผิว ไม่เพียงแต่ผลิตภัณฑ์กันแดดจะช่วยปกป้องผิวของคุณจากภาวะผิวคล้ำที่นำไปสู่รอยดำ ริ้วรอยและความหมองคล้ำ แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหย่อนคล้อยและสูญเสียความกระชับ
Atmosphere Airy Light UV Cream SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดพลังปกป้องระดับ SPF50+ PA++++ ที่มีเนื้อครีมบางเบาช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากรังสียูวีและอินฟราเรด
4. ปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพ
หลังจากที่ทราบผลกระทบจากการเกิดแซ็กคาริฟิเคชันแล้ว ให้คุณประเมินพฤติกรรมการกินของคุณให้ดีด้วย แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องลดการบริโภคน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในทันที แต่ก็ควรปรับสมดุลทางโภชนาการโดยรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีน ธัญพืช ผักและผลไม้ที่ได้สมดุลและดีต่อสุขภาพ เลือกรับประทานขนมที่มีประโยชน์ เช่น ถั่วและผลไม้แทนการรับประทานของหวานเมื่อรู้สึกหิวหรืออยาก อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าผลไม้แม้จะมีวิตามินมาก แต่การบริโภคมากเกินไปก็จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในร่างกายของคุณ อีกพฤติกรรมที่สำคัญคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและมีคุณภาพ ปริมาณการพักผ่อนของคุณในเวลากลางคืนจะเป็นตัวกำหนดระดับการฟื้นฟูสภาพผิวและการสร้างเซลล์ผิวของคุณใหม่จากภาวะความเครียดและรังสี UV ระหว่างวัน อย่าให้ละครโทรทัศน์เรื่องโปรดหรือรายการวิดีโอที่คุณชื่นชอบกระทบต่อการนอนหลับพักผ่อนเพื่อความงามของคุณ!
เมื่อรอยพับที่จมูกปรากฏชัดขึ้น ร่องลึกดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผิวของคุณเริ่มสูญเสียความกระชับ การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแลจะทำให้ภาวะหย่อนคล้อยของผิวรุนแรงยิ่งขึ้นและริ้วรอยลึกมากขึ้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมเพื่อฟื้นฟูความอิ่มเอิบของผิว และเพื่อรักษาความกระชับของผิวหน้าเพื่อให้คุณดูดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา!
คำแนะนำในการดูแลผิว
เลือกเครื่องสำอางที่เชื่อถือได้เพื่อให้ผิวของคุณใส เปล่งประกาย และสุขภาพดีแข็งแรง