ขั้นตอนแรกในการดูแลผิวให้สวยอย่างที่ทุกคนใฝ่ฝัน

พื้นฐานเบื้องต้นในการดูแลสภาพผิวต่าง ๆ
ขั้นตอนแรกของการดูแลผิวคือการทำความเข้าใจกับสภาพผิวของตนเอง

ยูมิ นาราซากิ

นักเขียนด้านความงามและเครื่องสำอาง

ความชุ่มชื้นคือพื้นฐานหลักในการดูแลผิวให้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากว่าสภาพผิวต่าง ๆ มีความต้องการในการดูแลผิวที่แตกต่างกันไป ก่อนอื่น คุณควรต้องเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสภาพผิวของตนเอง เพราะนี่จะทำให้คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมกับผิวของคุณมากที่สุด เพื่อเผยผิวที่งดงามและหมดจด

ตรวจสอบได้โดยทำเครื่องหมายในช่องที่ตรงกับคุณ

ผิวของฉันมักรู้สึกแห้งและเป็นขุย หรือเกิดภาวะแห้งได้ง่าย
เครื่องสำอางติดไม่ดี และมักไม่เป็นเนื้อเดียวกับผิว
ฉันรู้สึกกังวลกับริ้วรอยเล็ก ๆ

ฉันกังวลเกี่ยวกับความเหนอะหนะและมันของผิว
เครื่องสำอางมักเลอะง่ายและติดผิวไม่ดี
ฉันรู้สึกกังวลกับรูขุมขนที่กว้างและปัญหาสิวหัวดำ

พื้นที่ทีโซนของฉันมีความมันแต่โหนกแก้มแห้ง
ฉันกังวลเกี่ยวกับผิวที่แห้งและหยาบ
ฉันรู้สึกว่ารูขุมขนของตัวเองมองเห็นได้ชัดเจน

สำหรับคนที่ตอบข้อ ‘A’ มากกว่า
→ประเภทผิวของคุณคือ: ผิวแห้ง

ปริมาณไขมันที่ผิวต่ำและการขาดความชุ่มชื้นส่งผลให้ผิวแห้ง ปริมาณไขมันระหว่างเซลล์ที่ลดลง ทั้งซีบั้มและเซราไมด์ที่ควบคุมการทำงานของชั้นป้องกันผิวและระดับของ Natural Moisturizing Factor (NMF) ที่ลดลง เป็นข้อบ่งชี้ว่าผิวที่แห้งอยู่แล้วจะยิ่งแห้งขึ้นหากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้ง การเสื่อมสภาพของชั้นป้องกันผิวจะทำให้กลไกการป้องกันของผิวขาดประสิทธิภาพในการป้องกันมลพิษจากภายนอกและรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (UV) ที่แทรกซึมเข้าไปในชั้นลึกของผิว ทำให้ผิวหยาบกร้านและเกิดปัญหาอื่น ๆ ของผิว ผู้ที่มีผิวแห้งจะมีโอกาสเกิดภาวะผิวอ่อนแอและแพ้ง่ายในช่วงเปลี่ยนฤดู

PITERA^TM First Experience Kit

ค้นพบ 3 ขั้นตอนเพื่อผิวกระจ่างใสได้ในชุดแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของเรา

สำหรับคนที่ตอบข้อ ‘B’ มากกว่า →ประเภทผิวของคุณคือ: ผิวมัน

ผิวมันหมายถึงผิวที่มีการหลั่งไขมันมากเกินไป ทำให้ผิวเหนอะหนะและมัน ผู้ที่มีผิวประเภทนี้อาจมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น คนที่อยู่ระหว่างเข้าสู่วัยหนุ่มสาว หรือเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ช่วงต้น อีกสาเหตุของผิวมันคือการเกิดออกซิเดชั่นจากการหลั่งไขมันมากเกินไปเนื่องจากรังสี UV สถานการณ์เช่นนี้จะทำให้ชั้น Stratum Corneum หนา (ชั้นนอกสุดของผิว) และทำรูขุมขนชัดเจน เกิดสิวหัวดำ ผิวหมองคล้ำ มีรอยดำและปัญหาผิวอื่น ๆ

สำหรับคนที่ตอบข้อ ‘C’ มากกว่า →ประเภทผิวของคุณคือ: ผิวผสม

ตามชื่อคือผิวประเภทนี้จะมีการคละกันของสภาพผิว โดยบริเวณทีโซนจะมีลักษณะมันและเหนอะหนะ ในขณะที่บริเวณโหนกแก้มจะแห้งและเป็นขุย ลักษณะที่สำคัญของผิวผสมคือปริมาณไขมันที่มากเกินไปและความชื้นของผิวที่น้อยเกินไป สาเหตุที่เป็นไปได้ของผิวประเภทนี้อาจเกิดขึ้นจากสภาพผิวที่เคยหรือหรือมันมาก่อน และเริ่มเปลี่ยนมาเป็นผิวผสมเมื่ออายุมากขึ้น

หากคุณมีผิวแห้ง คำแนะนำของเราคือ:

หมั่นเติมความชุ่มชื้นและคอยเติมพลังให้กับผิว

ผิวที่แห้งต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ แต่อย่างค่อยเป็นค่อยไป! ขอแนะนำให้ทามิลกี้โลชั่นในปริมาณที่เหมาะสมหรือครีมทุกครั้ง กระจายเนื้อครีมหรือโลชั่นให้ทั่วสองถึงสามรอบตามความเหมาะสม การให้ความชุ่มชื้นนี้จะช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งและรักษาความชุ่มชื้นที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวของคุณ อย่างไรก็ตาม หากรู้สีกว่าผิวแห้ง ให้ใช้ครีมเนื้อหนาเพื่อให้สามารถให้ความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น

ทาโลชั่นน้ำนมรองพื้นเพื่อช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ไม่หลุดออก วิธีนี้จะช่วยให้ผิวของคุณเรียบเนียนขึ้น และรูขุมขนเล็กลง

เนื่องจากผิวที่แห้งมักมีความอ่อนไหวต่อสัมผัสมากกว่า ระมัดระวังในการทาให้ดีเพื่อไม่ให้ผิวได้รับการกระทบกระเทือนจากการดูแลผิวตามปกติของคุณ

SKINPOWER
Advanced Airy Cream

มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบาที่ช่วยชาร์จพลังผิวแบบจัดเต็มจากภายใน

หากคุณมีผิวมัน คำแนะนำของเราคือ:

เติมความชุ่มชื้นปริมาณน้อย แต่บ่อย ด้วยผลิตภัณฑ์สูตรน้ำมัน

ระหว่างการทำความสะอาด เลือกใช้เคลนซิ่งครีมปริมาณที่พอเหมาะเพื่อให้สามารถขจัดคราบตกค้างที่ใบหน้า โดยทำการล้างอย่างอ่อนโยนและอย่าถูแรง ๆ หลังการล้าง อย่าลืมเติมความชุ่มชื้นด้วยมิลกี้โลชั่น ส่วนประกอบของน้ำมันจะช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นที่ผิวของคุณ ทำให้ผิวสดชื่นอยู่เสมอ เลือกโลชั่นที่เนื้อเบาและให้ความสดชื่นหากคุณไม่ชอบความเหนอะหนะของเนื้อครีม สำหรับบริเวณที่อาจมีความมัน ให้ลดปริมาณโลชั่นที่ทาระหว่างการดูแลผิวในตอนเช้า จำไว้ว่าอย่าลืมคอยเติมความชุ่มชื้นทีละน้อยทุก ๆ เช้าและก่อนนอน

คนที่ผิวมันจะมีปัญหาการหลั่งของไขมันที่มากเกินไป ทำให้ผิวหมองคล้ำและมีเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ เพื่อขจัดความมันและ/หรือความวาวของผิวหน้า ให้ใช้เคลนซิ่งหรือโลชั่นสำหรับเช็ดหน้าก่อนดูแลด้วยมอยสเจอไรเซอร์

หากคุณมีผิวผสม คำแนะนำของเราคือ:

ปรับวิธีการดูแลผิวให้เหมาะกับประเภทผิวของคุณ!

รู้ไหมว่าความชุ่มชื้นจากโลชั่นและผลิตภัณฑ์แบบครีมแตกต่างกัน ซึ่งประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับสภาพของผิวเป็นสำคัญ อีกประเด็นสำคัญคืออย่าพยายามหลีกเลี่ยงการเติมความชุ่มชื้นเพียงเพราะคุณไม่ชอบความเหนียวหรือเหนอะหนะหลังการทาโลชั่น เนื่องจากการหลีกเลี่ยงการทาโลชั่นจะทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างบริเวณผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นและบริเวณผิวที่มันอยู่แล้ว พื้นที่บนใบหน้าที่มักรู้สึกแห้งได้แก่บริเวณรอบดวงตา โหนกแก้ม และแนวเส้นบนใบหน้าและโครงหน้า การเติมความชุ่มชื้นจะช่วยรักษาสมดุลของไขมันและสภาพความชุ่มชื้นโดยรวม

ขณะล้างหน้า ให้ใช้เคลนซิ่งโฟมและเริ่มจากบริเวณทีโซนที่มันมากกว่าก่อนดูแลพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป วิธีการล้างหน้าเช่นนี้ จะทำให้เคลนซิ่งโฟมสัมผัสกับพื้นที่ที่แห้งกว่าในเวลาที่สั้นกว่า

ระหว่างวัน ให้ใช้ทิชชู่ซับเบา ๆ บริเวณที่มัน ตามด้วยละอองโลชั่นแบบมิสต์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นก่อนเติมเครื่องสำอาง ขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดและทำให้ผิวสดชื่น แต่ยังช่วยให้ผิวกระจ่างใส เนื่องจากไขมันที่เกิดออกซิเดชั่นที่เป็นสาเหตุของความหมองคล้ำถูกขจัดออกไป

คำแนะนำ

ความมันหรือเหนอะหนะของผิวคุณเกิดจากการผลิตไขมันมากเกินไปหรือปัญหาผิวแห้ง

คนที่มีผิวผสมหรือผิวมันมักลังเลในการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นหรือผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันเนื่องจากไม่ชอบความเหนอะหนะเป็นทุนเดิม และนี่เป็นวงจรแห่งความเลวร้ายสำหรับผิวหากคุณหลีกเลี่ยงการเติมความชุ่มชื้น เนื่องจากร่างกายจะยิ่งผลิตไขมันออกมาเพื่อเป็นกลไกป้องกันและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวที่สูญเสียไป ดังนั้นหลังใช้โทนเนอร์หรือสกินโลชั่น ให้ทาโลชั่นหรือครีมให้ความชุ่มชื้นบาง ๆ เพื่อปกป้องผิวของคุณ